ตำนานตัวตลกร้ายสุดหลอนเจ้าชายแห่งอาชญากรรม The Joker

The Joker หนึ่งในตัวละครที่เปรียบได้ดั่งตัวแทนของความโกลาหล เจ้าชายของเหล่าวายร้าย ผู้ที่ได้รับฉายาสุดหลอน เจ้าชายแห่งอาชญากรรม คู่ปรับตลอดกาลของ Batman อัศวินรัตติกาล เรียกได้ว่าเป็นหยิบเอาด้านมืดในจิตใจของคนมาต่อสู้กัน บางครั้งถึงขั้นมองได้ว่าเป็น ตลกร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับใครหลายคนก็เป็นไปได้

Batman มีเพียงทักษะการต่อสู้ ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรโดดเด่นอย่างตัวละครอื่นๆในจักรวาล DC หากว่าแบทแมนเป็นชื่อนามแฝงของ บรูซ เวย์น เจ้าของธุรกิจ Wayne Enterprises ทำให้ตัวละคร Joker ที่เป็นศัตรูคู่แค้นตลอดกาลนั้นก็ต้องอยู่ภายใต้ความสามารถที่ใกล้เคียงกัน ที่เรียกว่าคู่ปรับตลอดกาล เพราะ โจ๊กเกอร์ ไม่ได้ใช้ศิลปะในการต่อสู้ แต่ใช้ความสามารถทางสติปัญญาในการวางแผนก่ออาชญากรรมเพื่อเล่นกับจิตใจของคน

สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนของโจ๊กเกอร์เมื่อนับมาเปรียบเทียบกับแบทแมน คือ ความสูญเสีย และ เลือกเส้นทางในการใช้ชีวิต

โจ๊กเกอร์สูญเสียทุกสิ่งในชีวิต ทั้งเมียทั้งลูกที่ยังไม่ตื่นลืมตามาดูโลก จิตใจไม่อาจยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อาจจะกล่าวได้ว่าโจ๊กเกอร์เป็นสัญลักษณ์ของความบ้าคลั่งในจิตใจมนุษย์

แบทแมนสูญเสียพ่อแม่ จากการฆาตกรรมเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก แต่ใช้สิ่งนั้นให้กลายเป็นแรงผลักดัน ในการปฏิญาณตนเพื่อที่จะปราบปรามเหล่าอาชญากร อาจจะเป็นเพราะแบทแมนยังมีพ่อบ้านอย่าง อัลเฟรด เพนนีเวิร์ธ เป็นสิ่งที่ทำให้แบทแมนเชื่อว่าไม่มีใครเกิดมา ดี หรือ ชั่ว แต่ขึ้นอยู่กับโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิต กลับกัน โจ๊กเกอร์ที่มีความเชื่อว่าไม่มีใครดีเต็มร้อย สำหรับทุกๆคนย่อมต้องมีวันเลวร้ายวันหนึ่งเสมอ โจ๊กเกอร์เพียงแค่ทำทุกวิถีทางให้คนที่มองว่าตัวเองนั้นดีเผยถึงสันดานดิบที่แท้จริงของตัวเองภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้ายเท่านั้น โจ๊กเกอร์มีโอกาสฆ่าแบทแมนหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ทำเพียงเพราะโจ๊กเกอร์เชื่อว่าแบทแมนก็สามารถล้ำเส้นศีลธรรมได้เช่นกัน ส่วนแบทแมนก็มีโอกาสฆ่าโจ๊กเกอร์ แต่ไม่ทำเช่นกันเนื่องจากมองเห็นโจ๊กเกอร์เป็นเหมือนน้องชายที่ร่วมชะตากรรมอันเลวร้าย และหวังลึกๆไว้ว่าจะฉุดดึงขึ้นมาจากนรกขุมนั้นได้

เนื่องจาก The Joker ไม่มีเหตุผลในการทำชั่วส่วนตัว ไม่เคยปรานีต่อความรู้สึก ไม่เคยจะฆ่าหนึ่งชีวิตหรือหลายชีวิตโดยไร้เหตุผล โดยแท้จริงแล้วเพราะเขาสูญเสียความเชื่อในความดีงามของมนุษย์ไป เพราะ กฎหมายไม่สามารถเอาผิดคนมีเงินและอำนาจได้ ทำให้เกิดความเชื่อใหม่ขึ้นมาว่า มนุษย์กับสัตว์ไม่แตกต่างกัน สัญชาตญาณในการฆ่ามีอยู่ในสายเลือดทุกคน และ หากไม่มีผลประโยชน์ของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องจะไม่ทำอะไรเลย The Joker จะทดสอบแนวคิดดังกล่าวด้วยการไล่ต้อนเหยื่อ ให้เข้าสู่สถานการณ์ที่บีบบังคับ ว่าจะเป็น ผู้เสียสละ หรือ ผู้ฆ่าที่คนอื่น เพื่อที่ตนเองจะได้มีชีวิตอยู่รอด การที่โจ๊กเกอร์พูดว่า ชอบเห็นเวลาคนกำลังจะตาย เพราะจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงฉีกกระชากหน้ากากแห่งศีลธรรมและความดีงาม

ปรัชญาโจ๊กเกอร์  

หากมองข้ามความเป็นฆาตกรโรคจิตของโจ๊กเกอร์ไป และ มองว่าเป็นเพียงแค่คนสับสนระหว่างความดีงามและความเลวทราม เพราะ เราไม่อาจจะสัมผัสได้ว่าโจ๊กเกอร์เป็นคนเลวหรือคนดี หากมองถึงตัวตนของโจ๊กเกอร์เป็นผู้แนะแนวทางให้กับความคิดที่ว่า“เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เป็นเพียงภาพลวงตาแห่งมายาที่สร้างขึ้นมา ในการไขว่คว้าหาอำนาจ”
“ความยุติธรรมไม่สามารถปลดเปลื้องพันธนาการความอยุติธรรมได้”
“ความวุ่นวายจะทำให้เห็นธาตุแท้ของคน คนจะรักชีวิตเมื่อรู้ว่าลมหายใจมีคุณค่ามากเท่าไร”
“ไม่ควรมองคนที่เปลือกนอกกล่าวหาว่าเขาเป็นตัวประหลาด ควรจะมองว่าตัวเองเป็นตัวประหลาดก่อนหรือเปล่าที่จะไปว่าคนอื่น”
“คนเก่งที่แท้จริงไม่ทำงานให้ใครฟรี ทุกอย่างต้องมีการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมกันเสมอ”

อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถหาได้จาก โจ๊กเกอร์ คือ การทำงานเป็นทีม เพราะว่า โจ๊กเกอร์ไม่เคยเป็นตัวร้ายที่ชอบโชว์เดี่ยวอวดพลังอย่างไม่มีเหตุผล แต่รอบตัวโจ๊กเกอร์นั้นเป็นลูกน้องที่มากฝีมือ บวกกับความสามารถ ในการคิด คำนวณ สร้างสมมุติฐาน และ แรงจูงใจในการควบคุมคนสนิท ทำให้ลูกน้องโจ๊กเกอร์ไม่เคยทรยศ ที่สำคัญโจ๊กเกอร์ไม่เคยพาลูกน้องไปตายฟรี จากการทำงานเป็นทีมและส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จด้วย

ใครเลยจะรู้ว่า The Joker มีอยู่ถึง 3 คน (อ้างอิงจาก Comic)

คำตอบนี้ Batman ได้ถามกับ Mobius (ผู้รู้ทุกสิ่งในจักรวาล) ถึงคู่ปรับตลอดกาลของเขา (จากหนังสือการ์ตูน Justice League New 52 เล่มที่ 42 ในเหตุการณ์ Darkseid War) ว่าตัวตนที่แท้จริงของ The Joker คือใคร นักสืบที่ฉลาดที่สุดในโลกถึงกับอึ้งและเอ่ยคำว่า เป็นไปไม่ได้

นับว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นเรื่องน่าแปลกใจ และ ไม่น่าแปลกใจในเวลาเดียวกัน หากว่า Batman มีผู้สืบทอดได้ แล้วทำไม The Joker จะมีผู้สืบทอดไม่ได้เช่นกัน เพราะว่า Batman คนแรก คือ บรูซ เวย์น และ ได้ฝึกฝนผู้สืบทอด คือ Robin ไว้มากมาย Dick Grayson, Jason Todd, Tim Drake, Stephanie Brown, Carrie Kelley และ Damian Wayne เป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์

แรกเริ่มการปรากฏตัวของตัวตลกนั้นไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนัก เรียกได้ว่า‘โจ๊กเกอร์’ เป็นเพียงคนไม่มีประวัติ ทำแค่ปล้นธนาคาร และ หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา มีประวัติที่ค่อนข้างคลุมเครือ นับว่าเป็น Joker คนแรก

จนกระทั่งหนังสือ “The Killing Joke” ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ The Joker ซึ่งเป็นสุดยอดมหาวายร้ายรอยยิ้มแห่งความมืดมน ภายใน The Killing Joke ได้พูดถึงวิศวกรหนุ่มในโรงงานเคมี  แจ๊ค แน็พเพียร์ ที่ลาออกเพื่อมาเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟน แต่ช่างโชคร้ายไม่มีใครขำมุกของเขา โชคร้ายซ้ำสองคือเศรษฐกิจที่ย้ำแย่ลงเมียตั้งท้อง ปัญหาทางการเงินและชีวิตเข้ามารุมเร้า ทำให้เขาตัดสินใจช่วยอาชญากร Red Hood วางแผนปล้นโรงงานผลิตสารเคมี โดยในกลุ่ม Red Hood จะผลัดกันใส่ชุดคลุมสีแดงเพื่อไม่ให้ใครรู้ตัวจริง โชคร้ายได้ปรากฏกับ แจ๊ค แน็พเพียร์ อย่างต่อเนื่อง ระหว่างที่กำลังลงมือก่อเหตุ เขาได้รับข่าวร้ายว่า เมียและลูกในท้องของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทำให้จิตใจล่องลอยและไม่อยากที่จะปล้นแล้ว แต่คนในกลุ่มไม่ยอมด้วยความเศร้าเสียใจบวกกับหวยมาออกที่ แจ็คทำให้ต้องใส่ Red Hood ในการก่ออาชญากรรมในครั้งนี้ทำให้ถูก Batman ไล่ต้อนหมายจะจับกุม ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้แจ็คพลัดตกลงบ่อสารเคมีในระหว่างการปะทะกับ Batman ทำให้แจ็คเปลี่ยนสภาพพร้อมกับจิตใจที่กำลังอ่อนไหวก็แตกละเอียดกลายเป็นความสยดสยองเเละสติเเตกเป็นบ้าไปในที่สุด The Joker  และนี่คือ Joker ที่มีวีรกรรมหฤโหดมากที่สุดในบรรดาเจ้าชายแห่งอาชญากรรม เป็นคนฆ่า Robin (Jason Todd) ฆ่าภรรยาคนที่สองของ Jim Gordon ทำให้ลูกสาวของ Jim Gordon เป็นอัมพาต ทรมาน Jim Gordon ด้วยการขังไว้ที่สวนสนุกร้างพร้อมกับนำภาพเปลือยเปล่ากับเลือดของลูกสาวมาแขวนอยู่รอบๆพร้อมๆกับประเด็นที่ว่า The Joker ข่มขืน Babara Gordon แล้วหรือยัง และ The Joker รายนี้ทำให้ซุปเปอร์แมนบ้าคลั่งด้วยการฆ่าเพื่อนสนิท Jimmy Olsen ลักพาตัวภรรยา Lois Lane มาผ่าตัดหัวใจใส่กลไกระเบิด ปล่อยแก๊สพิษใส่ซุปเปอร์แมนเพื่อให้เห็นภาพหลอน มองเห็นภรรยาเป็น Doomsday ทำให้ซุปเปอร์แมนจับเมียตัวเองโยนออกไปนอกโลกขาดอากาศหายใจตาย หลังจากการฆ่าภรรยาสุดที่รักอย่างเศร้าสลดและลูกที่ยังไม่คลอด เมื่อหัวใจของ Lois Lane หยุดเต้น กลไกระเบิดก็ทำงานแรงระเบิดในครั้งนี้ทำให้เมืองถูกแรงระเบิดทำลาย เรียกได้ว่า The Joker ได้ทำการทำลายจิตวิญญาณของซุปเปอร์แมนซะแหลกสลายปี้ป่น ความโกรธจัดทำให้ซุปเปอร์แมนตามหา The Joker และฆ่าทิ้งทันที กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม เนื่องจากซุปเปอร์แมนตัดสินใจตั้งระบบปกครองโลกขึ้นมา

ผู้สืบทอดเจตนารมณ์ The Joker (New 52) นับได้ว่าเป็น Joker คนที่ 3 ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นแบบว่าบ้าเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะเข้าถึง หลุดพ้นจากจิตใจอันบิดเบี้ยวด้วยการลอกหนังหน้าของตัวเอง และได้ทำการทิ้งใบหน้าของตัวเองตรึงเอาไว้บนกำแพง จากนั้นจะเอาใบหน้าของคนอื่นๆ มาใส่ เริ่มจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง Gotham มีทั้งหมด 19 คน และ The Joker (New 52) เป็นคนที่สามารถสู้กับ Batman ได้อย่างสูสีถึงขั้นตกลงไปในใจกลางถ้ำค้างคาว หัวทั้งคู่กระแทกทำให้สูญเสียความทรงจำไปทั้งคู่ กลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์ ‘End Game’ ที่ บรูซ เวย์น และ The Joker นั่งปรับทุกข์กันในสวนสาธารณะ

คำสาปจากบทบาท The Joker

ตัวร้ายจากโลกการ์ตูน จากที่ว่า โจ๊กเกอร์ คือ ด้านมืดของมนุษย์ เป็นการแสดงออกตัวตนของวายร้ายที่มีความวิปริต บุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม ทำให้นักแสดงต้องเล่นกับอารมณ์และความรู้สึก เพื่อที่จะเข้าถึงตัวละครนี้ได้จำเป็นต้องใช้วิธีการต่างๆในการ เข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของโจ๊กเกอร์ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ถูกตีความใหม่มีมุมมองที่ลึกและมีมิติมากขึ้น ยิ่งอินกับบทโจ๊กเกอร์มากเท่าไร ก็มีความเสียหายทางอารมณ์ก็มากขึ้นเท่านั้น

Cesar Romero (ซีซ่าร์ โรเมโร)

เป็นผู้รับบทบาทของโจ๊กเกอร์คนแรกกับเรื่อง Batman ในปี 1966 การแสดงออกที่เสมือนคนเป็นบ้ามากกว่าคนโรคจิต มักมีปัญหาปวดหัวบ่อยๆ ระหว่างเล่นบทนี้ กล่าวว่าเป็นภาวการณ์ต่อสู้กับการที่จะถูกโจ๊กเกอร์เข้าควบคุมจิตใจ

Jack Nicholson (แจ็ค นิโคลสัน)

การเล่นบทฆาตกรจิตวิปลาสกับเรื่อง Batman ในปี 1989 เขาก็พบว่าตัวเองเริ่มผิดปกติ หลังแสดงบทบาท Joker ที่มีบุคลิกภาพซับซ้อนทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ บวกกับมีความเครียดฝังเข้าไปในจิตใจจนต้องทานยานอนหลับที่ออกฤทธิ์รุนแรง จนเกือบขับรถตกหน้าผาแต่โทรศัพท์ดังปลุกเสียก่อน ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เขาต้องรับการบำบัดทางจิต และ ไม่ขอรับบท โจ๊กเกอร์ อีกเลย

Mark Hamill (มาร์ค ฮามิล)

เป็นผู้ที่ให้เสียงพากย์ Joker ของ Animation Batman Series , Movie และ Video Games เป็นเวลากว่า 20 ปี (1993-2018) ทำให้มีอาการนอนไม่หลับ เครียด และ จิตตก ตลอดช่วงเวลาที่รับงาน พร้อมกับเปรยขึ้นมาว่า โจ๊กเกอร์ไม่ใช่อาชญากรมนุษย์แต่เป็นสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์

Heath Ledger (ฮีธ เลดเจอร์)

เมื่อต้องแสดงเป็น Joker ในหนังเรื่อง Batman:The Dark Knight ความทุ่มเทของนักแสดงรายนี้ถึงขั้นลุงทุนเปิดห้องในโรงแรม ขังตัวเองมองกระจก เพื่อที่จะเข้าไปค้นหาด้านมืดของจิตใจ ฝึกหัวเราะคนเดียว และ ศึกษาการเป็น Joker อย่างเอาเป็นเอาตาย การเข้าถึงโจ๊กเกอร์ของฮีธ เลดเจอร์ เรียกได้ว่าเข้าขั้นสมบูรณ์ ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดความชั่วร้ายและความโรคจิตที่ยากจะคาดเดาได้ ฮีธไม่สามารถถอดคาแรกเตอร์ ในระหว่างที่อยู่ในกองถ่ายได้ ก่อนหน้านี้ แจ็ค เคยเตือน ฮีธ ว่าอย่าเข้าถึงบทเกินไปมันอันตราย ฮีธต้องเข้าพบแพทย์หลายคนและได้รับการรักษาในระหว่างที่กำลังแสดงหนัง 6 เดือนก่อนหนังจะเข้าฉาย เกิดเหตุไม่คาดคิดกับนักแสดงมากคุณภาพรายนี้ได้ การปลดปล่อยด้านมืดที่ขุดลึกลงไป สภาพจิตใจเขาฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ จนถึงขั้นต้องการยานอนหลับชนิดรุนแรงเช่นเดียวกับแจ็ค ทำให้เขากลายเป็นศพพร้อมกับไดอารี่ ที่ฮีธเขียนถึงตัวตนและภาพของโจ๊กเกอร์ พร้อมกับข้อความสุดท้าย “Bye Bye” แต่สิ่งนี้ทำให้เขากลายเป็นโจ๊กเกอร์ที่ดีที่สุดในรอบร้อยปีขึ้นอยู่บนหิ้งตลอดกาล

Jared Leto (จาเร็ด เลโต้)

การเข้าถึงบทบาทของจาเร็ด เลโต้ การเข้าถึงความชั่วร้ายดำมืดของเจ้าตัวตลกโรคจิต ใน Suicide Squad ถึงขนาดที่ เขาต้องนั่งอ่านวรรณคดีเกี่ยวกับ พ่อมด ศาสตร์มืด มนต์ดำ และฟังเพลงเกี่ยวกับศาสนาพร้อมกับร้องเพลงในโบสถ์ จากการกระทำต่างๆเพื่อเข้าถึงบทบาท ทำให้ จาเร็ด มีพฤติกรรมแปลกไป จนเกือบเพี้ยนไปเลย นอกจอ จาเร็ด เลโต้ ก็ไม่สามารถถอดตัวเองออกจากบทนี้ได้ เขาดำดิ่งในการเป็นวายร้ายทั้งการแสดงและชีวิตจริง เพราะเขายังเคยเรียก จิม แพททริค เพื่อนักแสดงที่รับบทเป็นลูกสมุนเขาไปทำภารกิจสุดแปลกพ่นพุ่มดอกกุหลาบด้วยสเปรย์สีดำ, การส่งหนูตัวเป็นๆให้ มาร์โกต์ ร็อบบี้ (ฮาร์ลีย์ ควินน์), ส่งลูกกระสุนให้ วิล สมิธ (Deadshot), ส่งนิตยสารเพลย์บอยเลอะๆให้กับ อะดีเวล อะคินโนเย-แอกบาเจ (คิลเลอร์ คร็อก), ส่งหมูตายแล้วให้ วิโอล่า เดวิส (อแมนดา วอลเลอร์)และยังส่งถุงยางใช้แล้วให้กับนักแสดงที่เหลือด้วย
วิล สมิธกล่าวว่าจาเร็ดเป็นโจ๊กเกอร์ตลอดเวลา ซึ่งจาเร็ดเองก็ยอมรับ เขาคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิตหลังจากนี้ เพื่อหลุดพ้นจากการเข้าถึงตัวละคร Joker

โจ๊กเกอร์ คือ ตัวตลกวิกลจริตที่ฆ่าคนมหาศาล และ ไร้ซึ่งการเห็นใจผู้อื่น แต่ตัวตลกวายร้ายคนนี้มีตัวตนที่แท้จริงอย่างไร อยู่ที่มุมมองของคนจะเลือก การก่ออาชญากรรมต่างๆทำให้ผู้ผดุงความยุติธรรมได้เห็นถึงสัญชาตญาณว่าเวลาที่คนเราอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับ คนดีๆที่เห็นทั้งหลายนั้นก็เลือกที่จะทำแบบ Joker

เพราะ Joker ไม่ใช่แค่ตัวร้ายในหนังการ์ตูน แต่ถูกสร้างขึ้นมาจากด้านมืดของมนุษย์

จะพีคมากกว่านั้น ถ้าหากว่าสักวันตัวขึ้นเอง ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า เป็น Joker แล้วคุณจะทำยังไง ฮา ฮ่า ฮ่า